เมื่อวันที่ 25 มี.ค. ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งรายงานเหตุสลด เรือสินค้าขนาดใหญ่เคลื่อนเข้ามาใกล้โป๊ะท่าเรือข้ามฟากส่งผลให้เรือเล็กล่ม มีผู้โดยสารสูญหาย โดยเจ้าของคลิประบุว่า เหตุเกิดเมื่อช่วงประมาณ 1 ทุ่มโดยประมาณของวันที่ 24 มีนาคม 2562 เรือหางยาวเล็กถูกเรือเดินสมุทรบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์มากลับลำบริเวณท่าเรือข้ามฟากวัดคลองเตยพุ้ยใบจักรสร้างคลื่นทำให้เรือหางยาวเล็กล่ม มีคนขับ 1 คน ผู้อยู่ในเหตุการณ์ได้ช่วยเหลือจนรอดชีวิต ผู้โดยสาร 1 คน (สงวนชื่อ) มีอาชีพเป็นรปภ.ที่การท่าเรือแห่งประเทศไทย สูญหาย
สอบถามเบื้องต้นทราบว่า เรือเดินสมุทรที่กลับลำถูกกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวจนท้ายเรือจะมาชนกับทางท่าเรือและสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ
จึงมีการให้เดินเครื่องเพื่อที่จะบังคับให้เเรือไปข้างหน้า ส่วนเรือหางยาวเล็กที่จอดตั้งแต่ต้น และเป็นว่า ท้ายเรือกำลังพุ่งจะมาชนบริเวณ จึงปล่อยเรือให้ไหลตามกระแสน้ำเพื่อที่จะหลบหนีจากท้ายเรือเดินสมุทร แต่เรือหางยาวเล็กก็ยังไม่รอดพ้นจากการเดินเครื่องทำให้ใบจักรพุ้ยคลื่นใหญ่จนเป็นสาเหตุให้เรือล่ม( Taweesit Unsakunsuk)
ล่าสุด เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ได้เร่งค้นหาร่างผู้สูญหายในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ท่าน้ำวัดคลองเตยนอก เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. วันที่ 24 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยต่อมามีผู้ใช้รายหนึ่งเข้ามาคอมเมนต์ว่า (คลองเตยแลนด์) “เจอศพเเล้วนะคะเมื่อเวลาประมาณ05.00น. ลอยติดอยู่ท้ายเรือรำที่เกิดเหตุ ที่จอดเทียบอยู่ท่าเรือคลองเตย(ท่าC) แฟนนั่งเรือเล็กกำลังกลับบ้านหันไปเจอพอดี แจ้งตำรวจติดต่อญาติเรียบร้อยเเล้วคะ”
Air Asia ขอโทษ ปมโฆษณาศัพท์สแลง Get off ชวนนักท่องเที่ยวมีเซ็กซ์ในเมืองไทย วันที่ 26 มี.ค. กำลังเป็นประเด็นร้อนแรงในสังคมออสเตรเลียอยู่ขณะนี้ โดยเว็บไซต์ brandinside.asia รายงานภาพโฆษณาของสายการบิน Air Asia ณ ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งติดอยู่บนป้ายบิลบอร์ดและข้างรถเมล์สาธารณะ ด้วยตัวหนังสือขนาดใหญ่ว่า “Get off in Thailand”
brandinside.asia รายงานว่า Melinda Liszewski โฆษกของ Collective Shout ได้โพสต์ทักท้วงถึงโฆษณาของสายการบิน Air Asia ที่ติดอยู่ข้างรถเมล์ในเมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย เธอเชื่อว่าโฆษณาชิ้นนี้เป็นการเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปมีเพศสัมพันธ์ในเมืองไทย (Get off เป็นศัพท์ที่มีความหมายแฝงสื่อถึงการมีเพศสัมพันธ์ได้)
“เรวัต-ชัยยศ” สองผู้สมัคร ปชป.ยอมรับการตัดสินใจของคนภูเก็ต เลือกให้ชาติเดินหน้าต่อ
สองผู้สมัคร ส.ส.ภูเก็ต จากพรรคประชาธิปัตย์ ขอบคุณทุกคะแนนเสียงและยอมรับการตัดสินใจของชาวภูเก็ตที่เลือกพรรคพลังประชารัฐ เพื่อต้องการให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไป จังหวัดภูเก็ต เป็นอีกหนึ่งฐานที่มั่นของพรรคประชาธิปัตย์ในภาคใต้ การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาๆ สามารถเอาชนะใจชาวภูเก็ต รักษาเก้าอี้ ส.ส.มาได้ทั้ง 2 เขตมาโดยตลอด แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ ส่งนายเรวัต อารีรอบ อดีต ส.ส.ภูเก็ต หลายสมัยลงสู้ศึกในพื้นที่เขต 1 และส่ง นายชัยยศ ปัญญาไวย อดีต ส.ว.ภูเก็ต และอดีตประธานสภาทนายความจังหวัดภูเก็ต นายชัยยศ ถือเป็นบุคคลที่เป็นที่รู้จักของคนภูเก็ตในวงกว้าง แม้ว่านายชัยยศ จะเพิ่งลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เป็นครั้งแรกในนามของพรรคประชาธิปัตย์ก็ตาม
ก่อนการลงคะแนนเลือกตั้งคอการเมืองมั่นใจว่าอย่างไรเสียประชาธิปัตย์นอนมาอยู่แล้ว เพราะนอกจากผู้ลงสมัครจะเป็นบุคคลที่เป็นที่รู้จักของสังคมภูเก็ตแล้ว พรรคประชาธิปัตย์ยังมีฐานเสียงในภูเก็ตอีกด้วย
แตกต่างจากผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐ ที่เป็นหน้าใหม่ทั้ง 2 เขต และไม่เคยลงเล่นการเมืองมาก่อนไม่ว่าจะเป็นเวทีในท้องถิ่นหรือเวทีใดๆ ทั้งสิ้น โดยนายสุทา ประทีป ณ ถลาง ผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐ เขต 1 รู้จักในฐานะคนที่ทำงานด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทั้งทางทะเลและบนบก ส่วนนายนัทธี ถิ่นสาคู เป็นข้าราชการครูเกษียณ ไม่เคยเล่นการเมืองมาก่อนเช่นกัน
แต่จากกระแสที่คนต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาบริหารประเทศต่อ ทำให้คนภูเก็ตตัดสินใจเทคะแนนให้แก่พรรคพลังประชารัฐ ทิ้งห่างคู่แข่งเจ้าของพื้นที่เดิมอย่างผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ เอาชนะไปทั้ง 2 เขต
นายชัยยศ ปัญญาไวย์ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังทราบผลการเลือกตั้ง ส.ส. จังหวัดภูเก็ต ว่า สำหรับการเลือกตั้งในครั้งนี้ ต้องยอมรับการตัดสินใจของคนภูเก็ต และขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่เลือกตนและพรรคประชาธิปัตย์ ในครั้งนี้ แม้ว่าจะไม่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาเป็น ส.ส. เพื่อทำหน้าที่เป็นตัวแทนของประชาชน แต่ก็ไม่เสียใจ เพราะถือว่าที่ผ่านมาทำดีที่สุดแล้ว เป็นนักการเมืองที่หลายๆ คนอยากเห็น ทำงานเพื่อสังคม เพื่อประชาชน อย่างเต็มที่ แต่เมื่อผลออกมาแบบนี้ก็ต้องยอมรับการตัดสินใจของประชาชน
“การเลือกตั้งครั้งนี้ต้องยอมรับ ว่า คนไม่ได้เลือกที่ตัวบุคคล คนไม่ได้มองว่าคนที่จะมาเป็นตัวแทนจะเป็นใคร รวมทั้งคนไม่ได้เลือกพรรค เพราะคนไม่ได้มองว่าแต่ละพรรคมีนโยบายอย่างไร แต่การเลือกตั้งครั้งนี้เกิดจากคนต้องการที่จะเลือกชาติ เพื่อให้ชาติสามารถเดินหน้าต่อไปได้ ผลการเลือกตั้งจึงออกมาตามที่เห็น” นายชัยยศ กล่าวและว่า
สำหรับเส้นทางการเมืองของตน ถ้าถามวันนี้ก็ยังตอบว่าพร้อมที่จะเดินอยู่ในเส้นทางนี้ต่อไป แต่ก็คงจะต้องรอดูทิศทางว่าจะเป็นทางการเมืองในแบบไหน เพราะตอนนี้ถือว่าเร็วเกินไปที่จะตอบว่าจะไปในเส้นทางการเมืองรูปแบบใด ทุกวันนี้ถือว่าทำดีที่สุดแล้วในการเดินอยู่บนเส้นทางการเมือง และไม่เสียใจกับการตัดสินใจของประชาชนที่เลือกตั้งอยู่บนพื้นฐานของความรักชาติ และเลือกที่จะให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไป รวมทั้งเลือกคนที่เชื่อว่าจะปกป้องชาติได้ ซึ่งก็เหมือนกับตนที่รักชาติ และยอมรับการตัดสินใจของคนรักชาติทุกคน
credit : packersjerseysshop.com nessendyl.net eurotissus.net genussmarathon.net